ครัวซองต์ (Croissant)
Lin Sweet Story
ครัวซองต์ (Croissant) ขนมปังรูปพระจันทร์เสี้ยวที่กลายเป็นขนมสุดฮิตของคนทั่วโลก มักนิยมรับประทานเป็นอาหารเช้าคู่กับกาแฟ นม แยม และแฮมชีส ปัจจุบันครัวซองต์มีสูตรต่าง ๆ มากมายให้เลือกซื้อตามความชอบ แต่รู้หรือไม่ว่ากว่าจะเป็นขนมที่เราคุ้นเคยกันอย่างในทุกวันนี้ ครัวซองต์มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานหลายร้อยปีเลยทีเดียว
ประวัติ และตํานานครัวซองต์ ขนมที่เกิดขึ้นระหว่างสงคราม
ครัวซองต์ เป็นขนมปังในวัฒนธรรมตะวันตก ที่หลายคนอาจเข้าใจว่ามีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศฝรั่งเศส แต่จริงๆ แล้ว ประวัติครัวซองต์เริ่มต้นขึ้นที่ประเทศออสเตรีย โดยดัดแปลงมาจากขนมพื้นเมืองที่เรียกว่า “คิปเฟล” (Kipferl) มีลักษณะเป็นขนมปังอบเนย ลักษณะคล้ายรูปพระจันทร์เสี้ยว ซึ่งต้นกำเนิดของขนมปังชนิดนี้ ต้องย้อนกลับไปในปี 1683 สมัยที่กองทัพเติร์กยกทัพมาตีกรุงเวียนนาของออสเตรีย แต่ล้อมเมืองอยู่นานก็ยังไม่สามารถฝ่าวงล้อมเข้าเมืองได้
กองทัพเติร์กจึงวางแผนขุดอุโมงค์เพื่อจะบุกเข้าเมือง แต่ในค่ำคืนหนึ่งระหว่างที่ศัตรูกำลังเร่งขุดอุโมงค์ พ่อครัวชาวออสเตรียคนหนึ่งที่ลุกขึ้นมาอบขนมขณะที่ชาวเมืองนอนหลับ ก็สังเกตเห็นความผิดปกติ จะส่งสัญญาณให้ชาวเมืองรู้ข่าว ในที่สุดทางการก็สามารถขับไล่กองทัพเติร์กให้ถอยกลับไปได้ ทั้งเมืองจึงเฉลิมฉลองชัยชนะ ด้วยการทำขนมปังขึ้นมาชนิดหนึ่ง ซึ่งก็คือขนมคิปเฟลนั่นเอง
จนกระทั่งในปี 1770 เมื่อครั้งที่พระนางมารี อังตัวเน็ตต์ เจ้าหญิงจากออสเตรียได้อภิเษกสมรสกับพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และย้ายมาพำนักอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส พระนางทรงคิดถึงบ้านเกิด จึงมีรับสั่งให้พ่อครัวชาวฝรั่งเศสในพระราชวังทำขนมคิปเฟลขึ้นมา ทว่าพ่อครัวได้ดัดแปลงในสไตล์ใหม่ กลายเป็นขนมปังที่เรียกว่า “ครัวซองต์” (Croissant) ซึ่งในภาษาฝรั่งเศส หมายถึง พระจันทร์เสี้ยว ซึ่งเป็นการเรียกชื่อตามรูปร่างของขนมนั่นเอง
ประวัติของขนมปังครัวซองต์ในฝรั่งเศส ไม่ได้มีหลักฐานบันทึกไว้อย่างชัดเจน บ้างก็เชื่อว่ามีที่มาจากทหารชาวออสเตรียที่ชื่อว่า August Zang ซึ่งเดินทางมาเปิดร้านขนมอยู่ในกรุงปารีส และได้อบขนมคิปเฟลขาย จนเป็นที่เลื่องลือว่ามีรสชาติอร่อย ได้รับความนิยมจากชาวฝรั่งเศสผู้มีฐานะ เนื่องจากเป็นขนมจากต่างประเทศ จึงมีราคาแพง
ต่อมาทหารคนดังกล่าวกลับบ้านเกิด ทำให้พ่อครัวในกรุงปารีสเริ่มหัดทำขนมที่มีลักษณะคล้ายคิปเฟลมาขายในราคาที่ถูกลง ชาวเมืองสามารถหาซื้อได้ จนกระทั่งกลายมาเป็นขนมครัวซองต์อย่างที่รู้จักกันในปัจจุบัน มีการดัดแปลงสูตร และใส่ส่วนผสมที่หลากหลาย ความนิยมจึงเผยแพร่ไปทั่วโลก นอกจากนี้ ทุกวันที่ 30 มกราคมของทุกปี ยังถูกกำหนดให้เป็น Croissant Day หรือ “วันครัวซองต์” อีกด้วย